Embedded Pc ราคา
เข้ารับการรักษาทันที 2. รับประทานยาอย่างเคร่งครัดตรงเวลาเสมอ 3. พบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง 4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 5. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จากงานวิจัยพบว่า การออกกำลังกายอาจช่วยกระตุ้นให้ระบบการเผาผลาญอาหารของผู้ติดเชื้อเอชไอวีทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 6. ดูแลสุขภาพจิต 7. เลิกบุหรี่ บุหรี่นั้นสามารถรบกวนระบบภูมิต้านทานได้ 8. เลิกใช้ยาเสพติด การใช้ยาเสพติด เพราะอาจทำให้อาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยแย่ลงได้ 9. ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่น แนะนำให้คู่นอนไปตรวจ ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีควรปฏิบัติตามทั้ง 9 ข้อ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ป่วยเอง หากผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแนะนำให้เข้ารับการตรวจเอชไอวีที่โรงพยาบาล หรือคลินิกนิรนาม โดยหากเป็นโรงพยาบาลของรัฐสามารถตรวจได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง แต่หากเป็นโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกทั่วไปก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 600 – 3, 000 บาท หรือหากไม่อยากเดินทางไปตามสถานพยาบาลก็สามารถหาซื้อ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง มาตรวจเองที่บ้านได้ โดยเลือกจากชุดตรวจที่มีเลขอย. ไทย จริงๆ แล้วทุกคนที่อยู่ในวัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน วัยผู้ใหญ่ หากเริ่มมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรจะลองตรวจเอชไอวีดูสักครั้ง เพราะว่าเราไม่สามารถทราบได้ว่าคนที่เราไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยนั้น เขาติดเชื้อเอชไอวีมาหรือเปล่า และหากอยากจะลองตรวจดู ให้พิจารณาว่าพ้น 21-30 วัน หลังเสี่ยงมาจะเป็นการตรวจที่ได้ผลดี สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงมากๆ ก็แนะนำให้ตรวจบ่อยๆ ตรวจที่ 30 วันหลังเสี่ยง 60 และ 90 วันหลังเสี่ยงอีกครั้ง หากอยากมั่นใจในทุกครั้งที่ตรวจ โปรดซื้อชุดตรวจเอชไอวีกับร้านที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานรับรอง สนใจสินค้า แตะที่ QR Code หรือ สแกน Add LINE สอบถามได้เลยค่ะ
เริ่มการรักษาโดยทันทีเมื่อทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี 2. รับประทานยาในทุกๆ วัน อย่าลืม อย่างดเว้นการทาน และทานยาให้ตรงเวลา การทานยาเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ป่วย เพราะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส ป้องการระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยลดโอกาสที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น 3. พบแพทย์เสมอเมื่อถึงเวลานัด ผู้ป่วยควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ มีการตรวจติดตามอาการตลอด เฝ้าระวังในการรักษา 4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง 5. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ดูแลร่างกายให้แข็งแรง 6. ดูแลสุขภาพจิต เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ป่วยจะรู้สึกแย่กับชีวิต จิตใจแย่ลง ฟุ้งซ่าน กลัว และกังวล หรืออาจคิดทำร้ายตัวเอง ดังนั้นผู้ป่วยควรได้รับการปรึกษาทางสุขภาพจิต เพื่อหาเพื่อนคุย หาที่ปรึกษาที่ดี ที่สามารถให้คำปรึกษาได้ และพยายามมองโลกในแง่ดีให้มากๆ ขึ้น 7. เลิกบุหรี่ เพราะบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามมา ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานหนักขึ้น 8. เลิกใช้ยาเสพติด เพราะอาจทำให้อาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยแย่ลงได้ 9.
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ทิโมธี เรย์ บราวน์ หรือที่รู้จักกันในนาม 'คนไข้เบอร์ลิน' (Berlin patient) ชายชาวอเมริกันผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นมนุษย์คนแรกของโลกที่หายจากการติดเชื้อ 'เอชไอวี' ( HIV) เสียชีวิตแล้ว ในวันอังคารที่ 29 ก. ย. 2563 ที่บ้านของเขาในเมืองปาล์ม สปริงส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยสาเหตุเกิดจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่เคยหายไปแล้ว แต่กลับมาเป็นอีกครั้ง "ทิโมธีเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไปได้ภายใต้สถานการณ์พิเศษ ที่จะกำจัดเอชไอวี ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้" ดร. เกโร ฮุตเทอร์ แพทย์ในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นผู้นำการรักษานายบราวน์กล่าว "มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่มะเร็งกลับมาอีกครั้ง และคร่าชีวิตของเขาไป เพราะเขายังปลอดจากเชื้อเอชไอวีอยู่เลย" ภาพเมื่อ 8 ส. ค. 2563 นายบราวน์นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านในเมือง ปาล์ม สปริงส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งนี้ นายบราวน์ทำงานเป็นล่ามอยู่ในกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี ก่อนจะได้รับการวินิจฉัยว่า ติดเชื้อ เอชไอวี และพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคีเมีย ด้วยในเวลาต่อมา โดยการปลูกถ่ายไขกระดูกและเซลล์ต้นกำเนิด หรือ 'สเต็มเซลล์' เป็นวิธีรักษาลูคีเมียที่มีประสิทธิภาพ แต่ ดร.
วันพฤหัสบดี ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ. ศ. 2565, 07. 48 น.
นพ. ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.