Embedded Pc ราคา
หลังจากแอปเปิลเลือกปรับไลน์กลุ่มแท็บเล็ต iPad ใหม่ โดยให้ iPad mini 4 และ iPad (2017 แทนที่ iPad Air) เป็นคู่ยึดตลาดราคาประหยัดเน้นความคุ้มค่า ในส่วนระดับบนเน้นประสิทธิภาพ ราคาสูง แอปเปิลได้เลือกเปิดตัว iPad Pro ใหม่ 2 ขนาดหน้าจอ คือรุ่น 12. 9 นิ้วและ 10. 5 นิ้ว พร้อมเลือกปรับสเปกให้กลุ่ม iPad Pro มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากรุ่นเดิมตั้งแต่การประมวลผลไปถึงจอภาพใหม่ ProMotion 120Hz ครั้งแรกของตลาดแท็บเล็ต การออกแบบ iPad Pro ขึ้นชื่อว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีราคาแพงที่สุดในตลาด เพราะฉะนั้นเรื่องงานออกแบบ แอปเปิลจึงค่อนข้างพิถีพิถัน โดยเฉพาะรุ่นไฮไลท์ 10. 5 นิ้วที่ทีมงานไซเบอร์บิซนำมารีวิวในวันนี้ จะเป็นรุ่นที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดทุกสัดส่วน ตั้งแต่ขนาดหน้าจอ 10. 5 นิ้ว ความละเอียด 2, 224 x 1, 668 พิกเซล (ความหนาแน่นพิกเซล 264 พิกเซลต่อตารางนิ้ว) มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2. 2 รองรับ Retina Flash, TouchID อัปเกรดไปใช้รุ่น 2 และมีเซ็นเซอร์ตรวจวัด Ambient light sensor เพื่อใช้ร่วมกับฟีเจอร์ True Tone Display ในส่วนขนาดตัวเครื่อง ถึงแม้หน้าจอจะมีขนาดใหญ่จากรุ่นเดิมถึง 20% (ใช้วิธีขยายขอบจอภาพแทน) แต่ในส่วนขนาดตัวเครื่องแอปเปิลจะพยายามคงรูปร่างของ iPad Pro 9.
5 นิ้ว WiFi 64GB เริ่มต้นที่ 24, 500 บาท ถึง 34, 700 บาทในรุ่น WiFi 512GB iPad Pro 12. 9 นิ้ว WiFi 64GB เริ่มต้นที่ 30, 900 บาท ถึง 41, 100 บาทในรุ่น WiFi 512GB iPad Pro 10. 5 นิ้ว WiFi+Cellular 64GB เริ่มต้นที่ 29, 500 บาท ถึง 39, 700 บาทในรุ่น WiFi+Cellular 512GB iPad Pro 12. 9 นิ้ว WiFi+Cellular 64GB เริ่มต้นที่ 35, 900 บาท ถึง 46, 100 บาทในรุ่น WiFi+Cellular 512GB มี 4 สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน, เทาสเปซเกรย์, ทองและโรสโกลด์ ส่วนอุปกรณ์เสริมอย่าง Apple Pencil (ซื้อแยก ไม่มีแถม) อยู่ที่ 3, 900 บาท ส่วน Smart Keyboard อยู่ที่ 5, 900 บาท ข้อดี – รุ่น 10. 5 นิ้วออกแบบดี เป็นรุ่นเน้นการพกพามากที่สุด ขนาดและน้ำหนักไม่ต่างจาก 9. 7 นิ้วเดิมมากนัก – หน้าจอ 120Hz ลื่นไหลตั้งแต่เปิดเครื่อง สไลด์นิ้วปลดล็อกจอ – สเปกเครื่องดีมาก ใช้งานได้หลากหลาย – ลำโพง 4 ตัวให้เสียงดีสุดในตลาดแท็บเล็ตตอนนี้ – กล้องปรับปรุงใหม่สเปกเดียวกับ iPhone 7 (มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วย) ข้อสังเกต – แอปฯบางตัว เช่น เกม ส่วนใหญ่ยังไม่รองรับจอ 120Hz – ไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบเร็วมาให้ ต้องซื้อเพิ่ม
5 นิ้วดังกล่าวเป็น ราคาล่าสุดที่มีการปรับลด แล้ว iPad Pro 2017 รุ่น 12. 9 นิ้ว ขนาด 64GB: รุ่น Wi-Fi ราคา 29, 900 บาท รุ่น Wi-Fi+Cellular ราคา 34, 900 บาท ขนาด 256GB: รุ่น Wi-Fi ราคา 35, 300 บาท รุ่น Wi-Fi+Cellular ราคา 40, 300 บาท ขนาด 512GB: รุ่น Wi-Fi ราคา 42, 500 บาท รุ่น Wi-Fi+Cellular ราคา 47, 500 บาท หมายเหตุ iPad Pro 2017 รุ่น 12.
5 นิ้วโดยเฉพาะ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่บางแต่ว่าทนทานซึ่งไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟหรือจับคู่ด้วย Bluetooth แต่อย่างใด แถมยังพับเป็น Smart Cover® ไว้ปกป้องตัวเครื่องได้ง่ายๆ อีกด้วย ราคาและการจัดจำหน่าย iPad Pro รุ่น 10.
หลังจากรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการของ iPad Pro 11 นิ้ว ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าหลายคนต้องนำไปเปรียบเทียบกับของเดิมอย่าง iPad Pro 10. 5 นิ้ว ที่ยังขายอยู่และปรับลดราคาลงมาอีกหน่อย คำถามคือ มันต่างกันอย่างไร วันนี้ Sanook! Hitech ได้นำสเปคมาเปรียบเทียบแล้วบอกความแตกต่างให้ได้ทราบว่า เลือกของใหม่ หรือ ของเก่าดีกว่ากัน สิ่งแรกที่แตกต่างกันชัดเจนคือ หน้าจอของเครื่องนั้น iPad Pro 11 จะมีความละเอียดมากกว่า iPad Pro 10. 5 พอสมควร เนื่องจากพื้นที่หน้าจอของ iPad Pro 11 นิ้วมีมากกว่านั่นเอง แต่ขนาดเครื่องกลับเท่ากัน ทำให้ iPad Pro 11 นิ้วจะมีความปลอดภัยเป็นแบบ Face ID เท่านั้น ขณะที่ iPad Pro 10. 5 ที่มีปุ่ม Home จะมีความปลอดภัยคือ Touch ID ตัวเครื่องของ iPad 11 รุ่นใหม่จะบางลงกว่าเดิมแต่ของเครื่องจะเหลี่ยมขึ้น และเปลี่ยนช่องชาร์จเป็น USB-C ซึ่งเป็นครั้งแรกของอุปกรณ์ iOS ที่ใช้ Port นี้เข้ามา ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายมากกว่าเดิม ขณะที่ iPad Pro 10. 5 ใช้ Lightning Port ที่มีอุปกรณ์เสริมเยอะอยู่แล้ว แต่ว่าอาจจะทำไม่ได้ทั้งหมดเท่ากับ USB-C นั่นเอง กล้องของ iPad Pro 11 นิ้วยกเครื่องจาก iPhone X R แทบจะทุกเรื่องตั้งแต่กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซลสามารถเล่น Animoji, Portrait Mode ปรับได้หลากหลายกว่าเดิม ส่วนกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล F1.
7" ที่มาพร้อมกับความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล อีกทั้ง iPad Pro 10. 5 ยังมาพร้อมกับค่า Refresh Rate ที่ระดับ 120Hz ทำให้สามารถแสดงผลได้ลื่นมากขึ้น และตอบสนองการทำงานร่วมกับ Apple Pencil ได้ดีขึ้นด้วย ประสิทธิภาพการทำงาน อย่างที่กล่าวไปด้านต้นว่า iPad Pro 10. 5" ได้รับการยกเครื่องฮาร์ดแวร์ใหม่ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับขุมพลังตัวใหม่ Apple A10X ที่ทาง Apple ระบุว่า จะมีประสิทธิภาพการประมวลผลของ CPU เร็วกว่ารุ่นก่อนอย่าง Apple A9X ที่ใช้บน iPad Pro 9. 7" ถึง 30% และมี GPU ถึง 12 Cores ทำให้ประมวลผลกราฟิกได้แรงขึ้นถึง 40% ด้วยกัน นอกจากนี้ iPad Pro 10" ยังได้ขยับความจุไปเริ่มต้นที่ 64GB แล้ว ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่เริ่มต้นด้วยความจุ 32GB เท่านั้น ด้านแบตเตอรี่ของ iPad Pro 10. 5" ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นเดียวกัน โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 30. 4 Wh ต่างจาก iPad Pro 9. 7" ที่มีแบตเตอรี่ 27. 5Wh แต่ทาง Apple ระบุว่า iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเท่ากันครับ ฟีเจอร์เด่นด้านอื่นๆ นอกเหนือจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และสเปกที่แรงขึ้นแล้ว iPad Pro 10. 5" ยังได้มีการปรับปรุงกล้องดิจิทัลให้ดีขึ้นกว่า iPad Pro 9.
5 มิลลิเมตร ล่าง ลำโพงตัวที่ 3 > พอร์ต Lightning > ลำโพงตัวที่ 4 *ลำโพงใน iPad Pro 10. 5 นิ้วจะเป็นสเตอริโอ 4 ตัว แบ่งการทำงานเป็นคู่ โดยคู่แรกจะให้เสียงแหลมแยกลำโพงซ้ายขวา คู่ที่สองเป็นเสียงกลางและเบสแยกลำโพงซ้ายขวา อีกทั้งเมื่อผู้ใช้ตะแคงเครื่องจากแนวตั้งมาแนวนอนหรือกลับเครื่องจากบนลงล่าง ล่างขึ้นบน ไม่ว่าหมุนเครื่องไปมุมไหนก็ตาม ระบบภายในจะบาลานซ์ปรับเสียงแหลม กลาง เบส แยกลำโพงซ้ายขวาให้อย่างถูกต้องทุกองศาการรับฟัง เพราะภายในมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอยู่ ในส่วนการรองรับ Apple Pencil สำหรับ iPad Pro 10. 5 นิ้ว (รวมถึงรุ่น 12. 9 นิ้วใหม่) ยังคงรองรับ Apple Pencil เช่นเดิม แต่ประสิทธิภาพจะดีขึ้น สเปกและฟีเจอร์เด่น iPad Pro 10. 5 นิ้ว และ 12. 9 นิ้ว (2017) ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Apple A10X Fusion 64-bit แบบ 6-core CPU 12-core GPU ทำงานร่วมกับชิป M10 พร้อมแรม 4GB รอมมีให้เลือก 64/256/512GB โดยรุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบเป็นความจุ 512GB WiFi ด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย WiFi รองรับมาตรฐาน 802. 11 a/b/g/n/ac (2. 4GHz และ 5GHz) พร้อม MIMO นอกจากนั้นยังรองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4. 2 พร้อมเข็มทิศดิจิตอลในตัวและรองรับเทคโนโลยีเฉพาะ iBeacon หรือเทคโนโลยีระบุตำแหน่งในอาคาร ส่วนรุ่น WiFi+Cellular จะเพิ่มเติมความสามารถในการรองรับเครือข่ายโทรศัพท์ผ่าน Nano Sim รองรับการเชื่อมต่อ 3G/4G LTE ทุกเครือข่ายในประเทศไทย นอกจากนั้นยังรองรับ GPS/GLONASS เพื่อใช้งานแผนที่นำทางได้ด้วย ด้านแบตเตอรี ในรุ่นหน้าจอ 10.
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงาน WWDC 17 เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมานั่นก็คือ new iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10. 5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหม่ที่ Apple ไม่เคยทำมาก่อน โดยสำหรับ iPad Pro 10. 5" นั้น ทาง Apple ได้นำมาแทนที่ iPad Pro รุ่นเก่าขนาด 9. 7 นิ้ว พร้อมยกเลิกการวางจำหน่ายรุ่น 9. 7 นิ้ว อย่างเป็นทางการแล้ว โดยถึงแม้ว่าภายนอกของทั้งสองรุ่นอาจดูไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ภายในของ iPad Pro 10. 5" ได้รับการยกเครื่องใหม่แบบรอบด้านเลยทีเดียว ซึ่งภายในวันนี้ ทางทีมงาน techmoblog จะพาทุกท่านไปรับชมว่า iPad Pro รุ่นใหม่ 10. 5 นิ้ว ที่เข้ามาแทนที่รุ่นเดิม 9. 7 นิ้ว จะมีความแตกต่างกันอย่างไร หากพร้อมแล้ว เราลองไปรับชมพร้อมๆ กันดีกว่าครับ SPONSORED ( กดเพื่อดูขนาดเต็ม) ดีไซน์ และการออกแบบ iPad Pro 10. 5" ยังคงเลือกใช้งานดีไซน์ที่เหมือนรุ่น 9. 7" เช่นเดิม แต่ที่หน้าจอได้รับการขยายพื้นที่การแสดงผลให้มากขึ้น 20% เป็น 10. 5 นิ้ว ในขณะที่ยังรักษาขนาดตัวเครื่องให้เท่ากับรุ่นก่อนได้ เนื่องจากพื้นที่จอที่เพิ่มมานั้น เป็นผลมาจากการลดขนาดขอบข้างของตัวเครื่อนั่นเอง ด้านการแสดงผล iPad Pro 10. 5" ยังคงเลือกใช้งานจอภาพแบบ Retina Display เหมือนรุ่นก่อน แต่ได้รับการอัปเกรดความละเอียดมากขึ้นเป็น 2, 224 x 1668 พิกเซล ต่างจาก iPad Pro 9.